สำนักกฎหมายเลิศธรรมทนายความและสวัสดิการชีวิต





 


 

 

 

 

เกี่ยวกับองค์กร

.....สำนักกฎหมายเลิศธรรมทนายความและสวัสดิการชีวิต ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๒๕ โดยการรวมตัวของทนาย
ความรุ่นใหม่ที่มีแนวความคิด อุดมการณ์เดียวกันและต้องการสร้างระบบสำนักงานทนายความให้มีมาตรฐาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจน
ถึงปัจจุบัน กว่า ๓๐ ปี สำนักกฎหมายเลิศธรรมทนายความและสวัสดิการชีวิต เป็นที่ยอมรับและไว้วางใจจาก
พ่อค้า นักธุรกิจ ประชาชน ตลอดจนบุคลากรในหน่วยงานราชการต่างๆ ในการให้บริการทางกฎหมาย ที่ยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริต ความรอบรู้ทางวิชาชีพกฎหมาย และอัตราค่าวิชาชีพที่เป็นธรรม

...ใ.“ ปัญหาทุกอย่างจะถูกขจัด ถ้าเราซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ ” เป็นคำขวัญที่ชาวเลิศธรรมยึดถือเป็นแนวทางในการทำงาน นอกจากนั้นชาวเลิศธรรมยังได้รับการปลูกฝังให้มีอุดมคติในการรักความยุติธรรม และมีแนวความคิดที่จะมุ่งให้บริการด้านวิชาชีพกฎหมายโดยมิได้มุ่งหากำไรเพียงอย่างเดียว

.....ปัจจุบันสำนักกฎหมายเลิศธรรมทนายความและสวัสดิการชีวิตได้พัฒนาเจริญก้าวหน้า และมีบุคคลากรที่มีความพร้อมในการให้บริการด้านกฎหมายครอบคลุมในทุกด้าน เพื่อสนับสนุนกิจการของบริษัท ห้างฯ ร้าน และประชาชนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการด้านให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย การรับว่าต่าง แก้ต่างอรรถคดีทั่วราชอาณาจักร และการจดทะเบียนขออนุญาตทุกประเภท

ข้อที่ ๑.  ไม่ทะนงตนให้เกินศักดิ์
ข้อที่ ๒. ไม่ยุยงคนใดให้ฟ้องร้องอีกคนหนึ่ง เพราะโกรธ เกลียด หรือโดยความริษยาอาฆาต ประการใด
ข้อที่ ๓.  มีความเคารพนบนอบต่อผู้พิพากษาในเวลาพิจารณาความในศาลแม้ความส่วนตัวของท่านจะเป็นประการใด
ข้อที่ ๔. ในเวลาว่าความสำรวมกิริยามารยาทเป็นอันดี แต่ถ้าทนายความฝ่ายตรงข้ามประพฤติตนไม่สุจริตฉะนี้
...............ก็ต้องรักษาอำนาจความชอบธรรมของลูกความถึงแม้ความรู้สึกภายในจะ เป็นประการใดก็ดี
ข้อที่ ๕.  แสดงความอ่อนน้อมนับถือ เจ้าพนักงานศาลในการที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของเขา
ข้อที่ ๖.  ถ้าไม่มีเหตุผลพิเศษแล้ว ต้องไม่รับว่าความให้แก่ผู้ใดที่ว่าจ้างผู้อื่นไว้เป็นทนาย  เว้นไว้ แตว่าทนายผู้่นั้น
...............พร้อมกันตกลงมาหาให้ท่านเป็นทนายแทน
ข้อที่ ๗. ถ้าจำเลยไม่มีเหตุผลตามกฎหมายที่จะต่อสู้โจทก์ ต้องแนะนำให้หาทางประนีประนอมกัน
ข้อที่ ๘.  เมื่อทราบแน่นอนไม่เป็นที่สงสัยว่าจำเลยในคดีอาญา ได้ทำผิดกฎหมายบ้านเมืองตามฟ้องแล้วก็อย่าเป็น
...............ทนายแก้ต่างให้เป็นอันขาดแม้จำเลยจะให้เงินทองมากมาย
ข้อที่ ๙.  มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อลูกความและระวังรักษาหน้าที่ของตนเองแม้ลูกความจะมีเงินน้อยไม่พอให้
...............ค่าทนายตามอัตราก็ดี ถ้าเขาให้ค่าจ้างตามมีตามเกิด แล้วต้องช่วยว่าความให้เขา โดยเต็มกำลัง
ข้อที่ ๑๐.ไม่คิดถึงประโยชน์ที่จะได้มากจากค่าจ้าง  ถ้าสามารถช่วยไกล่เกลี่ยให้จำเลยประนประนอมยอมความกัน
...............ได้เช่นนี้แม้จะได้รับค่าจ้างน้อยลงก็ตามที
ข้อที่ ๑๑. แม้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะเป็นผู้มียศฐาบรรดาศักดิ์หรือมั่งมีเป็นเศรษฐีประการใด ต้องไมครั้นคร้ามเกรง
...............บารมีจนเกินไปจนทำให้คดีของลูกความเสียไป
ข้อที่ ๑๒. จะเป็นเรื่องใหญ่ก็ดีเรื่องเล็กก็ดี ต้องทำหน้าที่ไปโดยเต็มกำลัง
ข้อที่ ๑๓. ไม่ซื้อความเขามาแม้ว่าจะได้กำไรมาก
ข้อที่ ๑๔. ไม่เก็บเงินทองข้าวของของลูกความมาปะปนกันจนไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร
ข้อที่ ๑๕. เมื่อได้รับเงินจำนวนที่ลูกความชนะมาเก็บไว้ ต้องรีบส่งให้ลูกความไปในเวลาอัน สมควร
ข้อที่ ๑๖.  เมื่อได้รับค่าจ้างว่าความล้วงหน้า แต่บังเอิญไม่สามารถว่าความให้เขาได้ด้วยประการใดต้องรีบส่งเงินคืน
...............ใให้เขาไปก่อนที่เขาจะทวงถาม
ข้อที่ ๑๗. หากมีหนังสือสำคัญหรือหลักฐานใดที่ตกค้างอยู่ เมื่อคดีเสร็จเด็ดขาดแล้วต้องคืนให้ลูกความเขาไปใน
..............ใ.ทันที
ข้อที่ ๑๘. เมื่อลูกความขอความเห็นต้องให้เขาโดยสุจริต  การให้ความเห็นโดยไม่คิดถึงข้อกฎหมายนั้นไม่เรียก .................ว่าสุจริต       
ข้อที่ ๑๙. ถ้ารู้เห็นด้วยข้อความสำคัญในคดีใดและต้องมาเป็นพยานสำคัญในคดีนั้น ต้องไม่เห็นแก่ค่าจ้างเข้ารับว่า
...............ความเป็นทนายให้ เพราะการเข้าเป็นพยานและทนายในคดีเดียวกันย่อม ส่อให้เห็นว่า เป็นคนมักได้เงินค่า
...............จ้างประการหนึ่ง และสามัญชนทั้งหลายจะพากันลงว่าเป็นกรเบิกความเข้ากับลูกความของตนเอง เพราะถ้า
...............ลูกความชนะก็ต้องใช้เงินค่าจ้าง
ข้อที่ ๒๐. เมื่อใดที่มีจดหมายของลูกความมาถึงต้องตอบเขาภายในเวลาอันควร
ข้อที่ ๒๑.ไม่อิจฉาริษยาต่อเพื่อนทนายผู้เคราะห์ดีมีชื่อเสียงเดินข้ามหน้าข้ามหน้าข้ามตาโดยความอุตสาหะของเขา
ข้อที่ ๒๒. ถ้าหากเคราะห์ดีมีชื่อเสียงขึ้นต้องไม่ทะนงตนเองดูถูกผู้อื่น ต้องคิดถึงบุญคุณของผู้ที่มี อุปการะคุณช่วย
...............เหลือ มีความเมตตากรุณาต่อทนายผู้มีชื่อเสียงต่ำ
ข้อที่ ๒๓.ใช้กิริยาวาจาสุภาพในการซักถามพยาน ไม่ทำให้พยานเจ็บใจเคืองแค้น ถนอมความรู้สึกของพยานไม่ขู่ ...............กรรโชกพยานด้วยวาจาอันหยาบคาย
ข้อที่ ๒๔.ไม่พูดจาคลอเคลียกับพยานฝ่ายตรงข้ามซึ่งอาจเป็นเหตุให้ถูกครหานินทา
ข้อที่ ๒๕. ไม่เป็นคนขี้ประหม่า ต้องใจกล้า อย่าสะเพร่า ตริตรองก่อนออกวาจา คิดเสียให้รอบคอบก่อนลงมือทำและ
...............ใช้ปัญญาโดยเต็มที่
ข้อที่ ๒๖. ต้องไม่เข้าใจว่าการพูดดังแล้วจะมีคนเกรงซึ่งไม่เป็นความจริงจงพูดแต่สั้นและสมเหตุผล การพูดประชด
...............หรือถากถางไม่เป็นมารยาทอันดี
ข้อที่ ๒๗. มีความนิยมเพลิดเพลินในวิชาทาหากินไม่คิดว่าการว่าความเป็นความยากเย็นหนักบ่าหนักแรงประการใด
ข้อที่ ๒๘. ไม่ประพฤติตนเป็นคนรู้มากมักได้เรื่องเงินทอง  การเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์นั้นเป็นการ ไม่ถูกต้องไม่นิยม
..............รับเงินทองข้าวของที่ไม่มีอำนาจอันชอบธรรมที่จะได้จากลูกความ
ข้อที่ ๒๙. รักษาเกียรติของตนอย่างสุภาพบุรุษ
ข้อที่ ๓๐. อ่านข้อ ปฏิบัติทั้ง 29  นี้ปีละ 2  ครั้ง  เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ


“ครอบครัวเลิศธรรม”





สำนักกฎหมายเลิศธรรมทนายความและสวัสดิการชีวิต
๖๗๔ ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมาจ.นครราชสีมา ๓๐๐๐๐
๐๔๔- ๒๕๓๕๙๑ , ๒๕๓๐๑๖ , ๒๔๔๘๔๐ , ๒๕๙๕๕๖-๙ Fax.๐๔๔ - ๒๕๖๘๗๒
www.lertthamlaw.com weerasak.bk@gmail.com